Monday, December 21, 2015

เผยวิธีการ กำจัดรอยแผลเป็น จากสิวได้อย่างรวดเร็ว ลองแล้วได้ผลแน่นอน!!

สิวอาจเป็นสภาพของผิวที่ทำให้คุณเจ็บปวดและอับอายได้ นอกจากนี้แผลเป็นที่มันได้ทิ้งไว้ให้ ก็เป็นสิ่งย้ำเตือนความทรงจำสิวๆ ที่คุณไม่ได้ยินดีต้อนรับเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่รอยแผลเป็นจากสิวจะเลือนหายไปเองหลังเวลาผ่านไปได้หลายเดือนก็ตาม แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่คุณสามารถทำได้ เพื่อช่วยเร่งกระบวนการนั้น และเพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดการสร้างเม็ดสีของแผลเป็นมากเกินไปกว่าที่เป็นอยู่ จริงอยู่ที่คุณไม่สามารถทำให้รอยสิวหายวับไปได้ภายในคืนเดียว แต่เคล็ดลับข้อแนะนำเกี่ยวกับการรักษา ผลิตภัณฑ์ ทรีทเมนต์ และสกินแคร์ต่างๆ ที่มีบอกไว้ด้านล่างนี้ จะทำให้เกิดความแตกต่างที่สังเกตเห็นได้เมื่อเวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่งแน่นอน สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ แค่มองหาวิธีการที่ใช่สำหรับประเภทผิวของคุณเองเท่านั้น
การรักษาสิว วิธีการ 1 จาก 3: ใช้วิธีรักษาแบบธรรมชาติ
1 ทาน้ำมะนาวสด. น้ำมะนาวมีคุณสมบัติขัดฟอกผิวตามธรรมชาติ และสามารถช่วยให้สีของแผลเป็นจากสิวอ่อนลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณผสมน้ำมะนาวกับน้ำในอัตราส่วนที่เท่ากัน แล้วนำมาทาบนรอยแผลเป็นทั้งหลาย และหลีกเลี่ยงบริเวณผิวหนังโดยรอบ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป 15-20 นาที ให้ล้างออก หรือคุณอาจจะปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืนแบบมาส์กก็ได้ แต่การทิ้งไว้ข้ามคืนไม่ใช่วิธีที่แนะนำเพื่อทำให้รอยสิวสีจางลง เนื่องจากน้ำมะนาวมีค่าความเป็นกรดด่าง (pH) คือ 2 แต่ของผิวหนังคือ 4.0-7.0 ดังนั้นหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปหรือไม่ได้ทำให้เจือจางก่อน จะสามารถก่อให้เกิดภาวะผิวไหม้จากเคมีได้ น้ำผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ ประกอบไปด้วยสารเคมีที่เรียกว่า เบอร์แกพเทน (Bergapten) ซึ่งจะไปผูกติดกับ DNA และทำให้ผิวหนังถูกทำลายโดยรังสี UV ได้ง่ายกว่าเดิม
จำไว้ว่าให้เติมความชุ่มชื้นแก่ผิวทันทีหลังจากล้างน้ำมะนาวออกแล้ว เนื่องจากกรดซิตริกในมะนาวสามารถทำให้ผิวแห้งได้อย่างมาก น้ำมะนาวพันธุ์ลูกสีเขียวที่มีขนาดเล็กกว่า (lime ซึ่งมีกรดซิตริกเช่นกัน) ในปริมาณเพียงเล็กน้อย สามารถนำมาใช้แทนน้ำมะนาวพันธุ์ลูกสีเหลืองที่มีขนาดใหญ่กว่า (lemon) ได้เลย
2 ขัดผิวหน้าด้วยผงฟู. ผงฟูสามารถนำมาใช้ขัดผิวและลดขนาดรอยแผลเป็นจากสิวได้ ทั้งหมดที่คุณต้องทำก็คือ ผสมผงฟู 1 ช้อนชาเข้ากับน้ำ 2 ช้อนชา นำมาทาทั่วทั้งใบหน้าแล้วนวดวนๆ ให้ผงฟูเข้ากับผิวหน้า โดยเน้นบริเวณที่มีรอยแผลเป็นสัก 2 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วซับผิวให้แห้ง ไม่แนะนำวิธีนี้สำหรับรักษาหรือทำให้รอยสิวหรือสิวที่ยังอักเสบอยู่หายไป เนื่องจากค่า pH ของผงฟูคือ 7.0 ซึ่งนับว่าเป็นกลางกับค่า pH ของผิวหนังเกินไป ทั้งนี้ค่า pH ของผิวหนังที่ดีที่สุดอยู่ที่ระหว่าง 4.7-5.5 ซึ่งไม่เอื้อต่อการเกิดสิวประเภท p. acne (สิวส่วนใหญ่ที่มีแบคทีเรียเป็นต้นเหตุ) ฉะนั้นการเพิ่มค่า pH ให้เป็นกลางมากขึ้น สิวประเภทดังกล่าวก็จะสามารถอยู่รอดบนหน้าของคุณได้นานขึ้น รวมถึงเกิดการติดเชื้อและอักเสบได้มากขึ้นอีกด้วย[1].......




0 comments:

Post a Comment